หน้าตาแห่งประวัติศาสตร์
เรือนรับรองพักแรมแห่ง เมืองโอโกะ
“ฮ็องจิน” หรือ เรือนรับรองหลัก คือ เรือนพักสำหรับเจ้าเมือง หรือ ขุนนาง ที่ใช้พักแรม สำหรับคณะเข้าเฝ้าโชกุนบนเส้นทางสู่เมืองหลวงเอะโดะ เมืองโอโกะ
คือ จุดพักแรมสำคัญ ระหว่างภูมิภาคฮะริมะ และ จุดท่องเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนอะริมะ ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยผู้สำเร็จราชการ โตโยโตมิ ฮิเดะโยชิ
คฤหาสถ์ตระกูลมุระคามิ (ผู้เก็บภาษีในสมัยนั้น) ซึ่งเคยเป็นเรือนรับรองหลักของ เมืองโอโกะได้รับการปรับปรุงขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยกำลังแรงร่วมใจของชาวชุมชน หลังจากที่ถูกทิ้งร้างมากว่า 60ปี
มูลนิธิกลุ่มอนุรักษ์เรือนรับรองพักแรมแห่งเมืองโอโกะถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นผู้ดูแล การจัดกิจกรรมต่างๆ ตลอดจนบริหารร้านคาเฟ่ชุมชน ภายในเรือนรับรองหลักแห่งนี้ ในฐานะศูนย์กลางแหล่งข้อมูลเพื่อเผยแพร่เสน่ห์ชุมชนสู่ผู้มาเยือน
เสน่ห์แห่งเทศบาลเมืองโอโกะ
ประวัติศาสตร์ของ เมืองโอโกะ ย้อนไปได้ถึงยุคก่อนประวัติศาสตร์โจมอง และมีหลักฐานในสมัยอะซึกะว่าเคยเป็นทะเลสาปอะวะโกะมาก่อน. ภายหลังสงคราม โจคิวในยุคคะมะคุระ ตระกูลโฮโจ ได้เข้ามาปกครองและขนานนามพื้นที่นี้ว่า โอโกะ มาจนถึงยุคสมัยสงครามกลางเมือง ก็มีการเปลี่ยนเจ้าเมืองดูแลปราสาทมาตลอด จนเมื่อโตโยโตมิฮิเดะโยชิ ได้เข้ามาควบคุมและปรับ เมืองโอโกะจากเมืองปราสาท ให้กลายเป็น เมืองพักแรม ก็มีร้านค้าที่พักเปิดขึ้นมามากมาย ตลอดสมัยเอะโดะ ปัจจุบัน เมืองโอโกะเป็นแหล่งเกษตรกรรมที่ขึ้นชื่อเรื่องสาเก ยะมะดะนิชิกิ และทุ่งดอกยุริ และดอกทิวลิป. ถึงจะเข้าสู่ยุคเปลี่ยนสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่ในปี ค.ศ.2011 เมื่อมีการตั้งกลุ่ม “ร่วมคิดอนาคต เมืองโอโกะ “ ก็มีกิจกรรมกระตุ้นเชิญชวนให้มีคนเมืองย้ายเข้ามาอยู่อาศัยในเขตเกษตรกรรมที่สงบสุขแห่งนี้
เรือนรับรองหลักเจ้าเมืองในอดีต
ฮ็องจิน เดิมทีคือ คำเรียกขบวนแถวที่รายล้อมองค์จักรพรรดิที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งต่อมาก็จัดขึ้นเพื่อโชกุน จนกลายเป็นคำเรียกที่นำมาใช้กับเรือนรับรองหลักในหมู่บ้านพักแรม เมื่อเข้าสู่สมัยเอะโดะ ที่เจ้าเมืองทั่วประเทศต้องส่งตัวแทนเข้าเฝ้าคารวะโชกุนถึงเมืองหลวงเอะโดะ. เรือนรับรองหลักพักแรมสำหรับเจ้าเมือง มีขนาดพื้นที่ใหญ่ ประกอบไปทั้ง ห้องปูเสื่อทะทะมิ ห้องปูพื้นไม้ ส่วนโดะมะพื้นดินสำหรับทำงานทั่วไป จนถึง โถงทางเข้าเรือนพัก และถูกออกแบบสร้างด้วยรูปแบบโชะอิน รวมถึงสวนหินญี่ปุ่นที่อลังการ จนมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อสิ้นสุดการปกครองของโชกุนตระกูลโตกุกาว่า และเข้าสู่ยุคจักรพรรดิเมจิ ที่ยกเลิกขั้นตอนขบวนเข้าเฝ้าคารวะโชกุนนี้ไปในปี ค.ศ.1870
ถนนสายน้ำพุร้อนยุซังสู่เมืองน้ำพุร้อนอะริมะ
ในสมัยเอะโดะ เมืองน้ำพุร้อนอะริมะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักฟื้นพักผ่อนหย่อนใจ สำหรับทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไป และผู้เดินทางมากับขบวนคารวะโชกุน ในปี ค.ศ.1578 เส้นทางสายน้ำพุร้อนนี้แสดงความสำคัญขึ้นมาอย่างชัดเจน เมื่อเส้นทางการส่งกำลังสนับสนุนสู่ทิศตะวันตกฮะริมะ (จากเกียวโตไปทางตะวันตกโดยมีเมืองนิชิโนะมิยะเป็นจุดเชื่อมสู่เส้นทางซ้นโย) ถูกตัดขาด เมื่อนายทหารคนสำคัญของ โอดะโนบุนากะ คือ อะระกิมุระชิเงะ ทรยศเจ้านายและทำการยึดปราสาทบนเส้นทางสายน้ำพุร้อนแห่งนี้ ต่อมาโตโยโตมิฮิเดะโยชิ จึงเปลี่ยนเมืองปราสาทให้กลายเป็นเมืองพักแรมแทนในที่สุด
ตระกูลมุระคามิและฮ็องจิน
ในปี ค.ศ.1579 ผู้สำเร็จราชการ โตโยโตมิฮิเดะโยชิ ได้ออกระเบียบให้ เมืองโอโกะมีการเปิดตลาดค้าขายโดยอิสระจากภาษีแบบเดิม ปีละ6ครั้ง โดยให้อะริมะโนริโยริเป็นเจ้าเมือง และโนริโยริก็ได้สั่งการให้มุระคามิคิเฮย์ เป็นผู้นำชาวบ้านและนักโทษทำการสร้างเมืองพักแรมขึ้น จนเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ เจ้าเมืองจึงตั้งให้ตระกูลมุระคามิเป็นผู้ดูแลภาษีในเมืองโอโกะ และใช้คฤหาสน์ของตระกูลเป็นเรือนรับรองหลักในที่สุด
ภายหลังปี ค.ศ.1873 เมื่อสิ้นสุดสมัยเอะโดะ และเมืองโอโกะไม่ได้ทำหน้าที่เมืองพักแรมอีกต่อไป และมีการตั้งโรงเรียนประถมเป็นครั้งแรก ฮ็องจินก็ได้ปรับเปลี่ยนกลายเป็นสถานศึกษาสำหรับครูและนักเรียน โดยมีคนในตระกูลมุระคามิ คือ มุระคามิ ฮงจิ รับหน้าที่ครูใหญ่ประจำโรงเรียนสืบต่อมา